ประโยชน์ของ...วิตามินซี
เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือดช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (Mutation)
ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตายในกรณีเด็กอ่อน (SIDS: Sudden Infant Death Syndrome)
ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
ช่วยคลายเครียด
การฉีดด้วยวิตามินซีปริมาณสูง อาจช่วยหยุดยั้งโรคมะเร็งได้ โดยวิตามินอาจเข้าทำปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์ มะเร็ง ให้กลายเป็นกรดขึ้น ทำให้เนื้อร้ายชะงักและน้ำหนักลดไปได้ [1]
แหล่งวิตามินซี
แหล่งวิตามินซีมีมากในผักตระกูลกะหล่ำ การเก็บเกี่ยวผักผลไม้ตั้งแต่ยังไม่แก่จัด ไม่สุกดี หรือนำไปผ่านการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นการตากแห้ง หมักดอง จะทำลายวิตามินซีที่อยู่ในอาหารไปในปริมาณมาก
ความร้อนทำลายวิตามินซีได้ง่ายจึงไม่ควรต้มหรือผัดนานเกินไป แต่การแช่เย็นไม่ได้ทำให้ผักผลไม้สูญเสียวิตามินซีเพียงข้อเสียอ
บางข้อมูลแนะนำว่าขนาดที่เหมาะสมมากที่สุดต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ คือ 250-500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
แหล่งวิตามินในธรรมชาติ จำนวน ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ
อะเซโรลาเชอรี่ น้ำหนัก 100 กรัม 1600 มิลิกรัม
ฝรั่ง น้ำหนัก 100 กรัม 230 มิลลิกรัม
สับปะรด 1 ชิ้นใหญ่(โดยเฉลี่ย) 20-30 มิลลิกรัม
กะหล่ำดอก น้ำหนัก 100 กรัม 49 มิลลิกรัม
บรอกโคลี น้ำหนัก 100 กรัม 84 มิลลิกรัม
น้ำมะนาว 1 แก้ว(100 กรัม) 34 มิลลิกรัม
มันฝรั่ง น้ำหนัก 100 กรัม 21.3 มิลลิกรัม
กะหล่ำปลี น้ำหนัก 100 กรัม 49 มิลลิกรัม
กล้วยชนิดต่างๆ 1 ลูก(โดยเฉลี่ย) 8.5 มิลลิกรัม
พริกหวาน 1 เม็ด(โดยเฉลี่ย) 100-120 มิลลิกรัม
ผักโขม น้ำหนัก 100 กรัม 76.5 มิลลิกรัม
สตรอว์เบอร์รี่ น้ำหนัก 100 กรัม 77 มิลลิกรัม
มะเขือเทศ น้ำหนัก 100 กรัม 21.3 มิลลิกรัม
มะละกอ น้ำหนัก 100 กรัม 60 มิลลิกรัม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น